PYSHIE

      ช่วงนี้ใครๆก็บ่นเหลือเกินว่าร้อน แหงล่ะ อากาศสูงสุดในไทยปาไปถึง44องศา ไม่ร้อนได้ไง แต่ถึงร้อนยังไงก็ต้องมีวิธีดับร้อนกันบ้างล่ะ แล้วแต่ว่าจะดับกันยังไง ครั้งนี้เรามีวิธีดับร้อนมาเสนอ แต่ก่อนจะดับก็ต้องทนร้อนกันหน่อยนะ 5555 เนื่องจากสถานที่เราจะพาไปครั้งนี้ตั้งอยู่แถบเมืองเก่า ที่ขึ้นชื่อว่าโดนแดดจังๆอยู่ละ เราจะพาไปยอดพิมานริเวอร์วอล์ค คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ย่านกรุงเก่า ด้วยคอนเซปต์แบบไทยจ๋า วิวดีริมแม่น้ำเจ้าพระยา พูดเลยว่าถ้ามาช่วงเย็นๆสัก4-5โมงเย็นบรรยากาศมันจะฟินมาก แต่นี่ดันมาช่วงเที่ยงถึงบ่ายโมงไง ขึ้นชื่ออีกว่าเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของวัน เอาวะ! จะร้อนมันต้องร้อนให้ถึงที่สุด กะทะทองแดงยังเคยลงมาละ แค่นี้ทำไมจะทนไม่ได้ (อุ่ย!!)      ร้านที่เราจะพามากันในครั้งนี้มีความพิเศษคือ บุฟเฟต์ไอศกรีม99บาทเท่านั้น!! อยากรู้แล้วใช่มะว่าที่ไหน (คนอ่านคงแบบ กูรู้ตั้งแต่ชื่อกระทู้ละ) แต่น แตน แต๊นนน!! Mo & Moshi ร้านไอศกรีมสุดหรูแต่ดีไซน์ได้น่ารักฟรุ้งฟริ้งมาก พาสเทลใสๆ เอาล่ะ พร้อมละเข้าไปดูกันเล๊ยยย!! (อ่านละออกเสียงใสๆตานะเพื่อนๆ!!><)

     ต่อจากกระทู้ที่แล้ว ที่พาไปเที่ยวนิทรรศน์รัตนโกสินทร์เส้นทางที่2 ห้อง1 ครั้งนี้มาต่อกันที่ห้อง2 ห้องนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ราชวงศ์จักรีล้วนๆครับ พอเราออกจากBTSแล้วพนักงานก็จะพาเดินขึ้นบันไดวน แล้วจะแนะนำว่าถ้าใครต้องการกลับก่อนหรือเข้าห้องน้ำให้แจ้งพนักงาน เพราะโซนนี้เป็นโซนปิด ออกไปเองไม่ได้ บรรยากาศภายในจำลองบรรยากาศเหมือนเป็นบ้านไม้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และให้ดูวิดีโอพรีเซนเทชั่นที่เป็นคุณยายกับหลานออกมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับกรุงเทพสมัยก่อน ซึ่งคลิปที่จะได้ดูเป็นคลิปนี้ งั้นดูไปพร้อมกันเลย ^^

     หลังจากที่ได้รีวิวเส้นทางสายที่1ไปแล้ว ก็ต้องมีสายที่2 เพราะฉะนั้นถ้ามีสายที่ 3 4 5.. ก็จะรีวิวต่อไป จริงๆแล้วเราไปที่นี่บ่อยมาก(ได้ข่าวบ้านอยู่รังสิต) คือเราชอบเกาะรัตนโกสินทร์มาก เราว่ามันชิลและสบายที่สุดในกรุงเทพละ ด้วยบรรยากาศอะไรต่างๆมันคลิกกับเราดี เอาล่ะ เข้าเรื่อง  นิทรรศรัตนโกสินทร์ได้จัดงาน " ใต้ร่มพระบารมี ๒๓๓ ปี กรุงรัตนโกสินทร์"  จึงขอร่วมฉลองเนื่องในวาระครบรอบ สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๑ เมษายน ของทุกปี เปิดให้เข้าชมนิทรรศการฟรี ตั้งแต่วันที่ ๑๗,๑๘,๑๙ และ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๘  โดยสามารถสำรองรอบเข้าชมทางโทรศัพท์ได้ วันต่อวัน  1. ต้องโทรสำรองรอบเข้าชมล่วงหน้าอย่างน้อย ๒ ชั่วโมง ในวันและเวลาทำการ   2. สิทธิ์การจองบัตร ๒ ท่าน ต่อ ๑ สายการจอง   3. ต้องยืนยันสิทธิ์รับบัตรเข้าชมก่อนเวลา ๓๐ นาที และขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเข้าชมกรณี ผู้เข้าชมไม่มาในเวลาที่กำหนด 10โมงเช้าโทรเท่าไหร่ก็โทรไม่ติด จนท้อถอดใจจะwalk inเข้าไปละ แต่เพื่อนเรามันไม่ถอดใจโทรไปจองจนได้รอบ14.40น.มาจนได้ แต่แล้วก็ไปรับบัตรไม่ทันพนักงานเลยให้บัตรรอบ16....

      หลังจากที่วันแรกในเชียงคานผ่านพ้นไป วันที่2เรามีนัดกันที่ภูทอกจุดชมวิวของเชียงคาน เราตื่นกันตั้งแต่ตี4เพื่ออาบน้ำแต่งตัวทำผม(555) เพื่อที่จะไปให้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้น เมื่อครบองค์ประชุมคุณลุงรถกะป๊อ(เช่าเหมาวัน)ก็มารอหน้าเกสท์เฮาท์ละ คุณลุงย้ำนักย้ำหนาว่ามันหนาวมากนะข้างบน เอาเสื้อไปอีก หาอะไรหนาๆไปห่ม นี่ก็แบบมีแค่นี้แหล่ะ(คิดในใจนะ) ระหว่างที่รถวิ่งไป ลมก็กระแทกหน้า อากาศระหว่างที่รถวิ่งพูดเลยว่าเย็นมาก 6ชีวิตสุมตัวกันเหมือนคนขาดความอบอุ่นอะไรประมาณนั้น พอถึงจุดขายตั๋วลุงก็ทิ้งเราไว้ที่นั่นแล้วลุงรอตรงนั้นเรา ซื้อตั๋วรถเพื่อขึ้นไปชม ขอบอกว่าคนเยอะมากกกกกกก ต่อแถวนานสุดๆ ยังดีที่อากาศดี เลยทำให้ยืนได้นาน      ต่อมาก็ได้ขึ้นรถ ลักษณะรถคือรถ2แถวใครได้นั่งก็ดีไป ใครได้ยืนก็ลมตีหน้าหน่อย(แต่ได้สัมผัสธรรมชาติมากกว่าคนอื่นนะตัว) รถวิ่งขึ้นมาประมาณ10นาที ก็ถึงภูทอกละ ตอนที่เราถึงเวลาประมาณตี5กว่าๆ ฟ้ายังมืดอยู่เล๊ยย แล้วสิ่งที่รอคอยก็มาถึง..

     จะว่าไปหลายปีที่ผ่านมา เราและเพื่อนๆก็ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดเยอะมาก แต่ก็ไม่ได้มาอัพบล็อกเอามาเขียนให้อ่านสักที(พูดตรงๆว่าขี้เกียจบ้างไรบ้าง555) พอมาช่วงนี้ทำงานหนักอยู่แต่ในเมืองไม่ค่อยมีเวลาไปเที่ยวไหนเลยคิดถึงเวลาที่ไปเที่ยวกับเพื่อนเลยถือโอกาสมันหยุดยาวสงกรานต์นี้มาเขียนรีวิวเลยละกัน ในความทรงจำ ให้พูดตรงๆเลย เชียงคานเป็นเมืองที่ไม่มีอะไรเลย ใครที่อยากจะไปหาอะไรตื่นเต้นหรือวิวสวยๆแปลกใหม่ เราไม่แนะนำเชียงคาน เพราะนางเป็นเมืองที่สงบมากกกกกก วิถีชีวิตเรียบง่าย เหมือนตามบ้านนอกทั่วไป แต่มันมีอะไรอยู่ในความเรียบง่ายนี่แหล่ะ อ่านไปเรื่อยๆรับรองเธอจะต้องตกหลุมรักเชียงคานแบบเรา

      ห่างหายจากการเขียนบล็อคไปนาน(มากกกก ก.ไก่ล้านตัว) เนื่องจากติดภารกิจต่าง(เหรอ) + ขี้เกียจ ตอนนี้คิดถึงบล็อคมากๆ อัพเดทบล็อคไลค์หายไปหมดเลย จะร้องไห้ T___T (หนูทำไรผิดค๊ะ!!) เข้าเรื่องดีกว่า ช่วงนี้อากาศร้อนเนอะ ร้อนๆก็ต้องหาน้ำมาดับ แต่ไอ้จะไปไกลก็กะไรอยู่ เวลามีค่าเฟร้ย!! หากินแถวๆเมืองแม่มนี่แหล่ะ วันนี้จะปากไปแถวปากเกล็ดแจ้... (คนที่อยู่ตจว.คงคิดในใจว่า แม่งไกลกรูอ่ะ)  ... เอิ่มม.. เคร๊ เข้าเรื่องรอบที่2      อย่างที่บอกไปถ้าต้องการร้านอาหารริมน้ำ ตกแต่งสวยหรูดูทันสมัย เหมาะที่จะมาแฮงค์เอาท์กับกลุ่มเพื่อน เมื่อคุณมาเจอกับอาหารฟิวชั่นที่จัดมาอย่างลงตัว ไทย จีน ยุโรป + กับบรรยากาศริมน้ำ เราว่า River Wine ตอบโจทย์คุณได้ดีนะ      เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับที่จอดรถอย่างกว้างขวาง จอดได้เกือบ50คัน(กะด้วยสายตานะบวกลบไม่เกิน10 อิอิ) แต่ที่จอดรถบางส่วนจะเป็นหินระวังยางแตกเน้อ... เดินเข้าไปอย่างแรกที่เห็นคืออาคารโครงสร้างรูปเรขาคณิต มีการผสมผสานเอาปูนกับไม้ไผ่มาผสมกัน สวยลงตัวมากทีเดียว บรรยากาศร่มรื่นและกว้างขวาง ไม่แออัด มีหลายโซน จุค...