เทคนิคถ่ายรูป ออกกำลังกาย ในฟิตเนส และ G-SHOCK GSQUAD GBD-H1000
สวัสดีครับทุกคนผมเชื่อว่าหลายๆคนที่ชอบออกกำลังกายในฟิตเนส คงอยากจะมีรูปสวยๆเอาไว้ดูกัน ครั้งนี้ผมจะบอกเคล็บลับการถ่ายรูปในฟิตเนสให้ดูเท่และคลุมโทนซึ่งครั้งนี้ผมมาพร้อมกับ G-Shock GBD-H1000 Training Watch ตัวแรกจาก G-Shock
ซึ่งฟีเจอร์ต่างๆจะมีอะไรบ้างเดี๋ยวเราไปดูพร้อมกับเทคนิคการถ่ายรูปได้เลยครับ
การถ่ายรูปในฟิตเนสอย่างแรกที่สำคัญเลย คือภาพต้องดูมีมูฟเมนต์ครับ เราลองหาท่าที่ดูมีการเคลื่อนไหว อย่างเช่นท่า Battle Rope เทคนิคคือ รัวชัตเตอร์ไปเลยครับ แล้วค่อยมาเลือกภาพที่ดีที่สุด
มาในส่วนนาฬิกากันบ้าง เจ้าG-Shock GBD-H1000 นี้สามารถบอก Heartrate Monitoring ได้แบบ Real time ด้วยการยิงลำแสงสีเขียววัดจังหวะของกระแสเลือดใต้ผิวหนังครับ
1. Altitude (ตัววัดระดับความสูง)
2. Barometric (ตัววัดความกดอากาศ)
3. Compass (เข็มทิศ)
และยังสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร
มาต่อกันเรื่องถ่ายภาพ เรื่องมุมก็สำคัญนะครับ แน่นอนว่าในฟิตเนสไม่ได้มีเราเล่นแค่คนเดียวการหลบมุมเพื่อหลีกเลี่ยงคนอื่นก็สำคัญครับ ไม่ใช่แค่ความสวยความแต่เป็นเรื่องไพรเวซี่ด้วย ถ้าหลบเลี่ยงไม่ได้จริงๆแนะนำให้ใช้เลนส์ที่เบลอหรือSmartphoneที่สามารถถ่าย Portrait Mode ได้ครับ
อย่างท่า Hanging Leg Rise ที่เราจะต้องโหนบาร์จะมีการยกช่วงขาขึ้น การถ่ายเสยก็จะทำให้เราดูลอยขึ้นจากพื้น และดูดีกว่าถ่ายมุมกดหรือมุมสายตาปกติครับ
กลับมาในส่วน G-Shock GBD-H1000 ยังสามารถนับระยะก้าวเดินและความเคลื่อนไหวได้ทั้งวัน และยังบอกจำนวน แคลที่เราใช้ไปได้ด้วยนะครับ
โดยเราสามารถดูได้ที่แอพพิเคชั่น G-Shock Move ซึ่งสามารถโหลดได้ทั้ง App Store และ Play Store
บางทีการถ่ายรูปไม่เห็นหน้าก็ได้อารมณ์เท่ไปอีกแบบนะครับ อย่างเช่นรูปนี้ ผมเลือกที่จะถ่ายจากด้านหลังและถ่ายย้อนแสง และถ่ายด้วยชัตเตอร์รัวๆเช่นกัน
ส่วนเรื่องโทนสีภาพอันนี้ผมมองว่าสำคัญเลยครับ สังเกตุภาพยิมหรือฟิตเนสของต่างประเทศใช่ไหมครับ ที่เขาค่อนข้างคลุมโทนให้ติดอันเดอร์และสีอยู่ในโทนเย็น เพราะภาพอันเดอร์+แสงแข็งจะทำให้เห็นไลน์กล้ามเนื้อชัดและตัวแบบดูโดดออกมาจากแบคกราวด์ แสงโทนเย็นจะให้ความรูปสึกคูล เท่ครับ แต่ถ้าใครชอบโทนWarm ก็ไม่ผิดครับ เพราะจะทำให้รู้ร้อนแรงมากขึ้น
ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็มาเช็คข้อความกันหน่อย ใช่แล้วครับเจ้า G-Shock GBD-H1000 ตัวนี้ยังสามารถรับการแจ้งเตือน และเช็คข้อความจากโทรศัพท์เครื่องที่เราเชื่อมต่อกับนาฬิกาได้ด้วยครับ
ส่วนการควบคุมฟังชั่นต่างๆยังไม่สามารถTouch Screenที่หน้าจอได้ แต่สามารถทำได้ที่ข้างๆตัวเรื่อนเช่นG-Shockรุ่นก่อนๆครับ ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขา
ส่วนอีกไฮไลท์ก็คือ สามารถชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ได้ และถ้าใครอยากชาร์จแบบปกติก็ทำได้ เพราะมีสายชาร์จUSBแถมมาให้ และที่สำคัญ นาฬิกาเรือนนี้สามารถใช้งานได้นานสุดถึง10ปีถ้าใช้แค่ Time Mode นะ
สุดท้ายนี้ผมคิดว่าคอนเทนท์นี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนชอบถ่ายรูปและออกกำลังกายนะครับ ยังไงก็ฝากกดไลค์ กดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ ครั้งหน้าจะมีเทคนิคอะไรมาเสนออีก รอติดตามนะ แล้วเจอกันคอนเทนต์หน้า สวัสดีครับ / PYSHIE