Dak Galbi
หลังจากถ่ายงานที่เซนทรัลเวิลด์ ก็เลยนัดแนะกับเพื่อนที่อยู่แถวสยามว่าจะหาไรกินกันสวยๆ มองนาฬิกา ตายละ 2ทุ่มฝ่าๆละ เวลาผ่านเร็วไปมระ (ดูริ้วรอยร่องแก้มสิ ส่องกระจกตามร้านข้างทาง..) ก็หาร้านรวงเพื่อที่จะได้หย่อยตูดลงแหม่ะ เห้ย อะไรวะ ร้านปิดจะหมดละ ใช่ไม่ล่ายเลยยย... เดินๆไปเห็นร้านนึงยังไม่ปิด ก็เลยตัดสินใจเข้าไปหาไรประทังชีวิตเลย
ก็รู้นะว่าร้านนี้ดัง แต่ไอ้เราไม่ใช่คนตามกระแสด้วยสิ หลายคนบอกอร่อย เราอาจไม่อร่อยก็ได้ ทั้งนี้อย่างเพิ่งเชื่อที่รีวิว (แล้วมึงจะเขียนบล็อกหาพระแสงไรวะ กากกกก...)
ขอบอกไว้ก่อนว่า ถ่ายรูปน้อยมาก (ตรูจับกล้องบ่อยละ จับมาทั้งวันให้วางกล้องบ้างนะที่รัก)
บรรยากาศภายในร้าน มองหาพ่อค้าแซ่บ |
พอเข้าร้าน สักพักก็มีคนมารับออเดอร์ (ไหนอ่ะ พ่อค้าแซ่บ) เราก็สั่งอะไรหมุๆเนี่ยแหล่ะ ตอนแรกจะเอาชุดเดียว เพราะดูเยอะอยู่นะ แต่เค้าบอกว่า 1ที่พอดีกับ1คน ไอ้เราไป3คน (คิดในใจ มันน้อยขนาดนั้นเลยเหรอ) ก็เลยสั่งเผื่อไว้เอาเป็น2ที่ดีกว่า เซพไว้ๆ สั่ง3มากลัวไม่หมด เพราะกะทะก็ใหญ่พอดู แล้วก็ข้าวอีก2ถ้วย
คุณค่าที่ดิฉันคู่ควร |
แล้วก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน คลุกไปสักผัก อิตัวท่อก็โดนดึงลงมาแล้วก็มาดูดควัน (ชั้นคิดว่ามันแอบเหมือนเครื่องเป่าผมของสถาบันเสริมความงามเกศเกล้าอ่ะ)
คลุกไปสักพัก ก็เอาข้าวทั้ง2ถ้วยมาวางแหม่ะไว้ครงกลางแล้วก็คลุกๆๆๆๆ
หน้าตาก็ประมาณนี้ แล้วเค้าก็เอามาบี้ๆแบนๆ ตรงกะทะ (หน้าตาชั้นว่าไม่ค่อยน่าทานอ่ะ) แต่ของแบบนี้ห้ามตัดสินจากภายนอก วิธีกินก็คือ เอาข้าวที่ผัดๆในกะทะมาทานกับผักที่เค้าจัดไว้ให้ ลักษณะเหมือนเมี่งปลาทูอะไรประมาณนั้น นึกภาพออกป๊ะ!?ถามว่ารถชาติเป็นไง เอาตรงๆ เราไม่ได้พิศมัยกับอาหารเกาหลีเท่าไหร่อยู่แล้ว รสชาติก็ใช้ได้นะ แต่ก็ไม่ถึงกับขั้นที่จะติดใจ ว่าเห้ยแม่งอร่อยว่ะ แต่ก็โอเคในระดับหนึ่ง งงป่ะ? แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ นั่งมองพ่อค้าไปกินไปก็อร่อยแล้วมั้ง (แล้วแต่คนนะ)